ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน จี้ “แพทองธาร” ลาออกนายกฯ

ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน จี้ “แพทองธาร” ลาออกนายกฯ

ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน  อ่านแถลงการณ์ เรียกร้อง “นายกฯ แพทองธาร” ลาออกจากตำแหน่งทันที จี้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เหตุหมดความชอบธรรมแล้ว กระทำผิดอาญา หมวด 3 และขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ

ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 28 มิถุนายน 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อเวลา 18.00 น. หลังจากที่แกนนำขึ้นเวทีปราศรัย ร่วมร้องเพลงชาติกับกลุ่มมวลชนแล้ว

ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน

ม็อบกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน จี้ “แพทองธาร” ลาออกนายกฯ เรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที

ต่อมา นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของประเทศไทยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าบรรดาฝ่ายบริหารนิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือการแต่งตั้งการรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรม จริยธรรมและสังคมอย่างกว้างขวาง ลึกและรุนแรง เหตุมาจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมายกฎเกณฑ์ การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก สำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนจนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ใช้ความสัมพันธ์กับรูปแบบและวิธีการยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย

นอกจากนี้ยังมีกระบวนการประกอบด้วยกลุ่มบุคคลจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายทุนผูกขาด เหนือรัฐ เหนือความมั่นคง และเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบ รวมถึงบุคคลที่อาศัยตำแหน่งอำนาจหน้าที่แอบอ้าง ร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม จริยธรรมและเอกราชอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติและประชาชน ทำลายหลักป้องกันตรวจสอบและขจัดการทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรง ใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ

อีกทั้งรัฐบาลยังอยู่ภายใต้การบงการการครอบงำและการสั่งการจากต่างชาติ โดยพฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นพฤติกรรมที่ประกาศชัดต่อสายตาประชาชนคนไทยมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่าบรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อย่างจริงจังเป็นรูปธรรม

ที่เลวร้ายที่สุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกนโยบายทำลายความมั่นคง ทำลายสถาบันหลักของชาติกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มีพฤติการณ์ตามที่เป็นข่าวสาธารณะ ในเชิงสมคบคิดและแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อำนาจหน้าที่ ไปในทางตอบสนองต่อความต้องการของอริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคำพูดและการกระทำ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรู ที่มีความมุ่งหมาย รุกรานละเมิดอำนาจอธิปไตย ต้องการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และขัดคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน แม้ปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดตามข่าวสารต่อสาธารณะ และการยอมรับของนายกรัฐมนตรี แต่บรรดาคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงสนับสนุนใน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จึงอาจถือได้ว่า เข้าร่วมกระทำการกับนายกรัฐมนตรีมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา กระทำการขัดต่อบัญญัติรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน

เพื่อธำรงรักษาไว้ในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทยทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม จึงขอให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตรลาออกทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที balancecounseling