ราชาแห่งมะม่วง เทียบคุณค่าทางโภชนาการ ข้อดี-ข้อจำกัด

ราชาแห่งมะม่วง เทียบคุณค่าทางโภชนาการ ข้อดี-ข้อจำกัด

มะม่วงพันธุ์ไหนดี? เทียบคุณค่าทางโภชนาการ ข้อดี-ข้อจำกัด และพันธุ์ที่คนไม่ค่อยกิน

มะม่วง ถือเป็นราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยความหลากหลายของสายพันธุ์ ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกกินพันธุ์ไหนดี พันธุ์ไหนมีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง บทความนี้จะพาไปสำรวจโลกของมะม่วงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ราชาแห่งมะม่วง

ราชาแห่งมะม่วง เทียบคุณค่าทางโภชนาการ มะม่วงพันธุ์ไหนเด่นเรื่องอะไร

หากวัดกันแบบกรัมต่อกรัม คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงจะแตกต่างกันไปตามความสุกและสายพันธุ์ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

มะม่วงสุก: โดดเด่นเรื่อง เบต้าแคโรทีน และ วิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ พันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่ามีสารอาหารกลุ่มนี้สูงคือ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง และ มะม่วงมหาชนก ที่มีสีเหลืองเข้มและสีแดงอมส้มเป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกก็มีปริมาณน้ำตาลสูงเช่นกัน

มะม่วงดิบ: มีจุดเด่นคือ วิตามินซี ที่สูงกว่ามะม่วงสุกอย่างชัดเจน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พันธุ์ที่นิยมกินดิบอย่าง มะม่วงเขียวเสวย หรือ มะม่วงแรด จึงเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี แต่จะมีรสเปรี้ยวหรือมัน และมีเบต้าแคโรทีนน้อยกว่า

พันธุ์ที่ควรกินสุก เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด

มะม่วงบางสายพันธุ์ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีรสชาติที่ดีที่สุดเมื่อสุกเต็มที่ การนำไปกินดิบอาจทำให้ได้รับรสชาติที่ไม่สมบูรณ์หรือมีรสเปรี้ยวจัดเกินไป

  • มะม่วงอกร่อง: ได้รับการยกย่องว่าเป็นมะม่วงที่มีกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ที่สุด เนื้ออาจมีเสี้ยนบ้าง แต่รสชาติหวานชื่นใจ เหมาะสำหรับทานคู่กับข้าวเหนียวมูนอย่างยิ่ง
  • มะม่วงน้ำดอกไม้: เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานหอม เมื่อสุกเต็มที่จะให้รสชาติที่ดีที่สุด

ข้อจำกัดและข้อควรระวังในการกินมะม่วง

แม้ว่ามะม่วงจะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปริมาณน้ำตาล ในมะม่วงสุก ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

นอกจากนี้ ยางของมะม่วงดิบบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวหนังได้ในบางคน จึงควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนรับประทานเสมอ

มะม่วงพันธุ์ไหนที่ไม่ค่อยนิยม

มีมะม่วงบางสายพันธุ์ที่อาจไม่เป็นที่นิยมในวงกว้างนักเมื่อเทียบกับพันธุ์การค้าอื่นๆ ซึ่งมักมีเหตุผลมาจากรสชาติหรือลักษณะของเนื้อที่ไม่ตรงตามความต้องการของตลาดหลัก

มะม่วงแก้ว: แม้จะหาได้ง่ายและราคาไม่แพง แต่มะม่วงแก้วมักถูกนำไปแปรรูปเป็นมะม่วงดองหรือแช่อิ่มมากกว่าการกินสด เนื่องจากเนื้อค่อนข้างมีเสี้ยนและรสชาติไม่หวานจัดเท่าน้ำดอกไม้

มะม่วงสามฤดู (บางสายพันธุ์): แม้จะออกผลตลอดปี แต่บางครั้งรสชาติอาจไม่คงที่เท่ากับมะม่วงตามฤดูกาล ทำให้ความนิยมในการบริโภคสดอาจน้อยกว่าพันธุ์อื่น

สรุปแล้ว การเลือกรับประทานมะม่วงนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ หากต้องการรสชาติหวานหอมและเบต้าแคโรทีนสูง มะม่วงสุกอย่างน้ำดอกไม้คือคำตอบ แต่หากต้องการวิตามินซีและรสชาติเปรี้ยวอมมัน มะม่วงดิบอย่างเขียวเสวยก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม สิ่งสำคัญคือการบริโภคในปริมาณที่พอดีเพื่อสุขภาพที่ดี balancecounseling