โดนัลด์ ทรัมป์ วิเคราะห์นโยบายล่าสุดการค้าคดีความที่น่าจับตา

โดนัลด์ ทรัมป์ วิเคราะห์นโยบายล่าสุดการค้าคดีความที่น่าจับตา

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 ยังคงเป็นบุคคลที่สร้างแรงกระเพื่อมและเป็นที่จับตามองอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ และบนเวทีโลก บทบาทและความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาสะท้อนถึงนโยบายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงคดีความที่ยังคงอยู่ในการพิจารณา

โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) และประเด็นการค้า

นโยบาย “Trump 2.0” ยังคงยึดมั่นในหลักการ “อเมริกาต้องมาก่อน” โดยมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครื่องมือสำคัญในการเจรจาต่อรองทางการค้ากับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังเห็นได้จากข่าวล่าสุดที่ทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงกับหลายประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศและแรงงานชาวอเมริกัน นโยบายดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น

ล่าสุด ทรัมป์ได้แสดงบทบาทในฐานะคนกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา โดยใช้ประเด็นทางการค้าเป็นเครื่องมือในการกดดันให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาหยุดยิง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของเขาที่มักจะเชื่อมโยงประเด็นความมั่นคงเข้ากับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

ความเคลื่อนไหวภายในประเทศ

สำหรับนโยบายภายในประเทศ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการรื้อถอนเต็นท์ของคนไร้บ้านทั่วประเทศและให้ย้ายพวกเขาเข้าไปอยู่ในศูนย์บำบัด นอกจากนี้ เขายังคงเดินหน้ากดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

คดีความที่ยังไม่สิ้นสุด

แม้ว่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ทรัมป์ยังคงเผชิญกับคดีความหลายคดี โดยเฉพาะคดีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ ซึ่งคณะลูกขุนได้ตัดสินว่าเขามีความผิดจริง 34 กระทงฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ศาลยังไม่มีคำตัดสินบทลงโทษในคดีนี้ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด

การกลับมาของ สู่ทำเนียบขาวอีกครั้งในปี 2024 นี้นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางของสหรัฐอเมริกาและของโลกในอีก 4 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ การเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ balancecounseling