ความจริงอันน่าสะพรึงเกี่ยวกับเด็กชายที่กินเพียงมันฝรั่งทอดกรอบและเฟรนช์ฟรายส์ติดต่อกันนาน 6 ปี แทบไม่แตะต้องผลไม้หรือผักเลยตลอดเวลากว่าครึ่งทศวรรษ
เด็กชายกินแค่ “มันฝรั่งทอด” นาน 6 ปี โดยแทบไม่แตะผักผลไม้เลย
เด็กหนุ่มที่ยืนกรานกินเพียงมันฝรั่งทอดกรอบและเฟรนช์ฟรายส์ ต้องเผชิญบทเรียนราคาแพงที่ตอกย้ำความสำคัญของการกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ
วัยรุ่นชาวอังกฤษรายนี้ใช้ชีวิตกว่าครึ่งทศวรรษกับอาหารขยะเป็นหลัก แทบไม่แตะต้องผักหรือผลไม้เลย
หลังจากจบชั้นประถม เด็กชายผู้ได้ชื่อว่าเป็น “นักเลือกกิน” จากเมืองบริสตอล กินอยู่ซ้ำ ๆ แค่เฟรนช์ฟรายส์ และขนมปังขาว ก่อนที่ผลร้ายรุนแรงจะตามมาในที่สุด
ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine เมื่อปี 2019 ระบุว่า อาหารที่เด็กชายยอมกินมากที่สุดก็เพียงแค่แฮมหรือไส้กรอกเป็นครั้งคราวเท่านั้น
นอกเหนือจากนั้น เขากินอยู่เพียงเฟรนช์ฟรายส์ กรอบปริงเกิลส์ และขนมปังขาว ตามข้อมูลจาก BBC
แม้ว่าเขาจะดูเหมือนเป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรง ไม่เคยต้องใช้ยา แต่เมื่ออายุ 14 ปี เขาเริ่มบ่นว่ารู้สึกอ่อนเพลียและไม่สบาย จนแพทย์พบว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ผลการตรวจเผยให้เห็นว่า เด็กนักเรียนรายนี้มีภาวะขาดวิตามินอย่างรุนแรง และมีสัญญาณของภาวะทุพโภชนาการ
แพทย์พบว่าเขามีระดับวิตามินบี 12 ต่ำมาก ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงเพื่อขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย อีกทั้งยังจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท และมีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซม DNA
ตามข้อมูลจาก NHS การขาดวิตามินบี 12 มักเกิดจากการรับประทานอาหารที่ขาดสารอาหาร และเนื่องจากวิตามินชนิดนี้พบได้เกือบเฉพาะในอาหารจากสัตว์ จึงทำให้กลุ่มมังสวิรัติหรือวีแกนมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดวิตามินดังกล่าว
การขาดวิตามินบี 12 สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรง เหนื่อยง่าย ชาปลายมือปลายเท้า แผลร้อนใน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาการมองเห็น ไปจนถึงปัญหาทางจิตใจ
โดยทั่วไปผู้ป่วยมักได้รับการรักษาด้วยการฉีดหรือทานวิตามินเสริมเพื่อชดเชยที่ขาดไป แต่บางรายอาจต้องรักษาตลอดชีวิต
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 12 ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงอาหารที่มีการเสริมวิตามิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรรับประทานหากร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้
สำหรับเด็กชายวัย 14 ปี แพทย์ได้ให้วิตามินเสริมและแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการกิน แต่เขากลับไม่สามารถทำตามได้ ทั้งไม่สม่ำเสมอกับการทานอาหารเสริม และไม่ยอมเปลี่ยนรูปแบบการกิน
3 ปีต่อมา เมื่ออายุ 17 ปี เขาต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตาในเมืองบริสตอลด้วยอาการสายตาเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นร่างกายของเขามีภาวะทุพโภชนาการรุนแรง แพทย์ผู้รักษารายหนึ่งระบุว่า “เขาสูญเสียแร่ธาตุจากกระดูก ซึ่งถือว่าน่าตกใจมากสำหรับเด็กในวัยนี้”
ดร.เดนิซ อาตัน อธิบายว่า อาหารประจำวันของเขาแทบจะมีเพียง “เฟรนช์ฟรายส์จากร้านฟิชแอนด์ชิปส์ท้องถิ่น” ร่วมกับขนมขบเคี้ยวที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
“เขามักจะกินมันฝรั่งทอดกรอบอย่างปริงเกิลส์ บางครั้งก็มีขนมปังขาวหรือแฮมบ้าง แต่แทบจะไม่มีผักหรือผลไม้เลย” ดร.อาตันกล่าว พร้อมเสริมว่า “เขาอธิบายว่าไม่สามารถทนต่อเนื้อสัมผัสของอาหารหลายชนิดได้ ทำให้ชิปส์กับ เป็นอาหารเพียงไม่กี่อย่างที่เขารู้สึกว่ากินได้จริง ๆ”
ดร.อาตันและทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลตาเมืองบริสตอลได้ทำการตรวจเพิ่มเติมระดับวิตามินของวัยรุ่นรายนี้ ผลปรากฏว่าเขายังคงขาดวิตามินบี 12 ร่วมกับสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น ทองแดง ซีลีเนียม และวิตามินดี
ความบกพร่องเหล่านี้ทำให้เขาเข้าข่ายผู้พิการทางสายตา และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ภาวะเส้นประสาทตาเสื่อมจากโภชนาการ (Nutritional Optic Neuropathy)
ตามข้อมูลจาก EyeWiki โรคนี้มักเกิดจากการขาดวิตามินบีรวม ซึ่งทำให้กระบวนการขนส่งอิเล็กตรอนหยุดชะงัก และการสร้างพลังงาน ATP ลดลง
โรคดังกล่าวสามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก แต่หากปล่อยไว้นานเกินไป ความเสียหายจะถาวร เนื่องจากเส้นใยประสาทในเส้นประสาทตาจะตายลง
วารสาร Annals of Internal Medicine ระบุว่า “เมื่อถึงเวลาที่แพทย์วินิจฉัย อาการทางสายตาของผู้ป่วยได้เสียหายอย่างถาวรแล้ว”
ดร.อาตันอธิบายว่า “เขามีจุดบอดตรงกลางลานสายตา นั่นหมายความว่าเขาไม่สามารถขับรถได้ และจะลำบากมากในการอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือจดจำใบหน้า แต่เขายังพอเดินเองได้เพราะยังมีการมองเห็นรอบนอกเหลืออยู่”
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ย้ำว่า แม้กรณีเช่นนี้จะพบไม่บ่อย แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนถึงอันตรายจากการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล
เธอยังให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองที่กังวลเรื่องลูกเลือกกินว่า “อย่ากังวลจนเกินไป แต่ควรค่อย ๆ แนะนำอาหารใหม่ 1–2 อย่างในแต่ละมื้ออย่างใจเย็นจะดีกว่า”balancecounseling
