เสือแบล็ค ชนด่านหิน “ปกรณ์” ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137

เสือแบล็ค ชนด่านหิน “ปกรณ์” ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137

การที่ไฟต์นี้ “เสือแบล็ค” ต้องปะทะกับจอมบู๊ระดับตำนานอย่าง “ปกรณ์” ผู้เป็นนักชกรุ่นพี่ที่เขาเคยร่วมซ้อมด้วยมาก่อน ทำให้ “เสือแบล็ค” รู้ดีว่าไฟต์นี้เขาจำเป็นที่จะต้องทุ่มสุดแรงเท่านั้นในการฝ่าด่านแกร่งนี้ไปให้ได้ เพื่อเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จในปีหน้าที่จะลดน้ำหนักลงมาชกในรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ต่อไป

ผ่านได้ไม่ต้องกลัวใคร! “เสือแบล็ค” ชนด่านหิน “ปกรณ์” ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137

เสือแบล็ค

“พี่ปกรณ์ เป็นมวยไอคิวสูงที่สามารถชกได้ครบเครื่อง จะเล่นฝีมือก็ได้ เข่าก็เหนียว ถ้าผมเผลอเปิดช่องโหว่ให้เห็นก็อาจถูกปิดเกมได้เลย ผมจึงต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแกร่งไปปะทะแบบเต็มที่ พี่เขาได้เปรียบผมแค่ประสบการณ์เท่านั้น ส่วนลูกหนัก ลูกทน เราน่าจะสูสีกัน”

ถ้าผมผ่านมวยกระดูกแข็งอย่างพี่ปกรณ์ไปได้ ผมพูดตรง ๆ ว่าไม่กลัวใครแล้ว พร้อมเจอทุกคน ปีหน้าผมตั้งเป้าลดมาชกรุ่นฟลายเวต และจะสร้างความสำเร็จให้ได้ ถึงหลายคนอาจจะคิดว่า ผมเพ้อเจ้อ แต่นักมวยทุกคนมีฝัน และความฝันของผมคือ การเป็นแชมป์โลก ONE”

แม้ “เสือแบล็ค” จะรู้สึกลำบากใจไม่น้อยกับการต้องขึ้นชกกับรุ่นพี่คนสนิทอย่าง “ปกรณ์” แต่สุดท้ายเขาเลือกวางความรู้สึกส่วนตัวไว้ข้างหลังในฐานะนักชกมืออาชีพ และตอบรับเป็นมวยแทน “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ที่ป่วยต้องถอนตัวไปก่อนหน้านี้

“ตอนที่รายการติดต่อมาให้มาเป็นมวยแทนพี่เสกสรร เจอกับพี่ปกรณ์ ผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่พักหนึ่งเพราะพี่ปกรณ์ เคยสอนมวยผมมาก่อน ผมนับถือเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ถ้าให้เลือกได้ผมคงไม่ชกด้วย แต่ในเมื่อผมไม่มีทางเลือกก็ต้องตัดสินใจชก เพราะไม่วันใดวันหนึ่งเส้นทางมวยของเราคงบังคับให้ต้องมาเจอกันอยู่ดีครับ”

balancecounseling