กล้วย ผลไม้เสี่ยงสูญพันธุ์ เชื้อร้ายคุกคาม อีกไม่นานโลกนี้

กล้วย ผลไม้เสี่ยงสูญพันธุ์ เชื้อร้ายคุกคาม อีกไม่นานโลกนี้

ป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่เบื้องหลังความแพร่หลายนี้คือความเปราะบางเกือบทั้งหมดที่เรากินทุกวันนี้มาจากสายพันธุ์ทางพันธุกรรมเพียงสายเดียว จึงอ่อนไหวต่อโรคอย่างมาก

การขาดความหลากหลายทางพันธุกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเพาะปลูกของมนุษย์มาหลายศตวรรษที่เน้นความสม่ำเสมอมากกว่าความทนทานต่อโรค “วันสิ้นโลกของกล้วย” มีโอกาสเกิดขึ้นจากเชื้อราที่อยู่ในดิน Fusarium oxysporum f. sp. cubense สายพันธุ์ TR4 ซึ่งกำลังคุกคามสวนตั้งแต่เอเชียไปจนถึงลาตินอเมริกา

  กล้วย

เนื่องจากแพร่พันธุ์แบบไม่อาศัยเพศผ่านการแยกหน่อจากเหง้าใต้ดิน ไม่ใช่จากเมล็ด การระบาดเพียงครั้งเดียวสามารถกวาดล้างทั้งสวนได้โดยไม่เหลือ “เกราะพันธุกรรม” ที่จะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

บทเรียนจากอดีต

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 พันธุ์ Gros Michel ซึ่งเคยครองตลาดโลก ถูกกวาดล้างแทบหมดสิ้นด้วย โรคตายพราย (Panama disease) จนทำให้อุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนไปพึ่ง Cavendish แทน แต่ปัจจุบัน Cavendish ซึ่งเป็นโคลนปราศจากเมล็ดที่โดดเด่นเรื่องการขนส่ง ก็กำลังเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับ Gros Michel

กล้วย ปัญหาทางพันธุกรรม

ต้นไม่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ แต่ใช้การแตกหน่อ ทำให้ทุกต้นเป็นโคลนที่เหมือนกันทางพันธุกรรม จึงขาดความหลากหลายที่ช่วยให้ต้านทานโรคตามธรรมชาติ อีกทั้งกล้วยยังเป็นพืช triploid (มีโครโมโซม 3 ชุด) ทำให้เป็นหมัน ไม่สามารถผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์เพื่อสร้างความต้านทานโรคได้ตามวิธีปกติ

การล่มสลายของ Gros Michel

ในทศวรรษ 1950 โรคตายพรายใน ได้ทำลายสวน หอมพันธุ์ Gros Michel ทั่วอเมริกากลางและพื้นที่อื่น ๆ จนการส่งออกเกือบหมดสิ้น เหลือเพียงการปลูกในฟาร์มขนาดเล็กหรือคอลเลกชันส่วนตัวของคนรวยที่สามารถดูแลความปลอดภัยทางชีวภาพได้

Cavendish อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกัน

Cavendish ซึ่งต้านทานโรคตายพรายใน สายพันธุ์เดิม (TR1) ได้ กลายเป็นพันธุ์หลักของโลก

แต่ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เชื้อรา TR4 ได้แพร่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปกว่า 21 ประเทศทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ปัจจุบันประมาณ 80% ของการผลิต โลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และยังไม่มีพันธุ์ที่ต้านทานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการปลูกในเชิงพาณิชย์

แม้จะมีความพยายามด้านพันธุวิศวกรรม เช่น จีเอ็มสายพันธุ์ QCAV-4 ของออสเตรเลีย หรือสายพันธุ์ Yelloway 1 ของ Chiquita แต่ยังติดปัญหาทั้งข้อกำหนดทางกฎหมาย ความกังวลของผู้บริโภค และการพัฒนาเชื้อราที่รวดเร็วกว่า

หากไม่มีการดำเนินการที่เด็ดขาด เช่น การเพิ่มความหลากหลายของสายพันธุ์ การลงทุนในงานปรับปรุงพันธุ์ และการยกระดับมาตรการป้องกันทางชีวภาพ แหล่งอาหารสำคัญของโลกอาจล่มสลายซ้ำรอยอีกครั้ง อาจต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์อีกครั้งภายในไม่กี่ทศวรรษ

สำหรับผู้บริโภคที่คุ้นชินกับผลไม้สีเหลืองชนิดนี้ คำว่า “วันสิ้นโลกของ อาจฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้เตือนเราแล้วว่ามันอาจเกิดขึ้นจริง และรอบนี้อาจเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม balancecounseling