วัดใหญ่จอมปราสาท มรดกแห่งศิลปะและกาลเวลา ณ ริมฝั่งท่าจีน
วัดใหญ่ จังหวัดสมุทรสาคร เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอย่างยิ่งแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำท่าจีนในตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร วัดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในท้องถิ่น แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ทางศิลปะอันล้ำค่าที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งอดีตผ่านกาลเวลามายาวนานกว่า 400 ปี
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน
สันนิษฐานว่าวัดใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ราวรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ด้วยทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญในอดีต ทำให้วัดแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรือง เดิมทีชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดใหญ่” ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดใหญ่สาครบุรี” พร้อมทั้งได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง และได้รับพระราชทานพระไตรปิฎกอีกด้วย
ชื่อ “วัดใหญ่ นั้น สันนิษฐานว่ามาจากลักษณะของพระวิหารเก่าแก่ของวัดที่มียอดเป็นทรงปราสาท หรืออาจเป็นการเรียกเพื่อยกย่องความงามสง่าของวัดเสมือนปราสาทอันโอฬาร
สถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุอันโดดเด่น
สิ่งที่ทำให้วัดใหญ่ มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับประเทศ คือ โบราณสถานและศิลปวัตถุอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะพระวิหาร (หรือพระอุโบสถหลังเก่า) และบานประตูไม้แกะสลัก
พระวิหารฐานโค้งท้องเรือสำเภา: พระวิหารหลังเก่าเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือส่วนฐานที่โค้งแอ่นคล้ายท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยอยุธยาตอนปลาย เชื่อกันว่าการสร้างโบสถ์หรือวิหารในลักษณะนี้เป็นการระลึกถึงการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาทางเรือในอดีต แม้ปัจจุบันพระวิหารหลังนี้จะเหลือเพียงผนังและโครงสร้างบางส่วน แต่ก็ยังคงความงดงามและสะท้อนให้เห็นถึงฝีมือช่างในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระวิหารหลังนี้เป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479
บานประตูไม้แกะสลักสามมิติ: อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบในศิลปะให้มาเยือนวัดแห่งนี้ คือ บานประตูไม้แกะสลักของพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งเดิมทีเป็นบานประตูของพระวิหารเก่า บานประตูไม้นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดแห่งงานศิลปะการแกะสลักไม้ของไทย ด้วยลวดลายที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง มีความลึกถึง 4 ชั้น ทำให้ลวดลายแลดูมีมิติราวกับภาพสามมิติ
- บานหนึ่ง แกะสลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษา ก้านขด เถาดอกไม้ และรูปสัตว์ต่างๆ เช่น กระรอก นก และแมลงที่ซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้ แสดงให้เห็นถึงความช่างสังเกตและความละเอียดอ่อนของศิลปินผู้สร้างสรรค์
- อีกบานหนึ่ง แกะสลักเป็นลายป่าสนจีน ซึ่งมีลักษณะคล้ายต้นจากและต้นมะพร้าว สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะจีนที่ผสมผสานเข้ามาในงานช่างไทยสมัยอยุธยา
ด้วยความงดงามและคุณค่าทางศิลปะอันประเมินค่ามิได้นี้ กรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนบานประตูไม้แกะสลักทั้งสองบานนี้เป็นศิลปวัตถุของชาติในปี พ.ศ. 2505
ความสำคัญในปัจจุบัน
ปัจจุบัน วัดใหญ่ ยังคงเป็นศาสนสถานที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร มีการประกอบศาสนพิธีต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อชื่นชมความงามของโบราณสถานและศิลปวัตถุอันล้ำค่า บรรยากาศริมแม่น้ำท่าจีนที่เงียบสงบยังช่วยเสริมสร้างให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนจิตใจอีกด้วย
วัดใหญ่จอมปราสาทจึงมิใช่เป็นเพียงศาสนสถานเท่านั้น แต่ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ เป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะไทยอันทรงคุณค่าที่สมควรแก่การอนุรักษ์และสืบทอดให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป balancecounseling