อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 339,375 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำภาค และแม่น้ำแควน้อย ลักษณะดินในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินทราย เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากหินทราย ทำให้ภูมิทัศน์ของอุทยานเต็มไปด้วยหน้าผาหินทรายและป่าที่อุดมสมบูรณ์
ประวัติน้ำตกชาติตระการ
อุทยานแห่งชาติน้ำตก เริ่มต้นจากความร่วมมือของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอชาติตระการและนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่เสนอให้กรมป่าไม้จัดตั้งพื้นที่ป่าเขาย่าปุกเป็นวนอุทยานในปี พ.ศ. 2523 ต่อมาในปี 2525 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วนอุทยานน้ำตก และมีการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2530 ได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 55 ของประเทศไทย โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 339,375 ไร่ หรือ 543 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติน้ำตก ใช้ชื่อนี้ตามชื่อของ อำเภอชาติตระการ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักที่ตั้งของน้ำตกและอุทยาน โดยก่อนหน้านั้นเคยใช้ชื่อว่า “วนอุทยานเขาย่าปุก” ตามชื่อภูเขาในพื้นที่ แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วนอุทยานน้ำตก ในปี พ.ศ. 2525 เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของอำเภอและเพื่อให้จดจำง่ายขึ้นในเชิงการท่องเที่ยว โดยน้ำตกที่เป็นจุดเด่นของอุทยานนี้ก็อยู่ในเขตอำเภอชาติตระการเช่นกัน จึงเป็นที่มาของชื่อในปัจจุบัน
น้ำตกชาติตระการ พิษณุโลก มีกี่ชั้น
น้ำตก พิษณุโลก เป็นน้ำตกสายคู่ที่ไหลผ่านลงมาจากหน้าผาหินขนาดใหญ่ที่มีสีแดง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงภายในอุทยานฯ โดยน้ำตกนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น ชื่อของแต่ละชั้น ตั้งตามนามธิดาของท้าวสามมนต์ในวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ได้แก่ มะลิวัลย์ กรรณิการ์ การะเกด ยี่สุ่นเทศ เกศเมือง เรืองยศ และรจนา
- ชั้น 1 มะลิวัลย์ – น้ำตกสูง 30 เมตร มีแอ่งน้ำเล่นได้
- ชั้น 2 กรรณิการ์ – น้ำแรง ไหลผ่านหน้าผา ไม่เหมาะเล่นน้ำ
- ชั้น 3 การะเกด – น้ำตกเล็ก วิวสวย เหมาะนั่งพัก
- ชั้น 4 ยี่สุ่นเทศ – น้ำตกเป็นม่านน้ำ มีหาด เล่นน้ำได้
- ชั้น 5–7 เกศเมือง, เรืองยศ, รจนา – น้ำตกเล็กๆ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะเดินเล่นและชมธรรมชาติ
น้ำตกชั้นแรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากผาสูงประมาณ 30 เมตร สู่แอ่งน้ำกว้างใหญ่ ขณะที่น้ำตกชั้นที่ 4 มีลักษณะเป็นม่านน้ำกว้างที่ตกลงมาบนธารน้ำที่ล้อมรอบด้วยหาดทรายสวยงาม แต่ละชั้นมีความงดงามที่แตกต่างกันไป ยิ่งในช่วงน้ำเยอะแบบนี้ยิ่งทวีคุณความอลังการของสายน้ำยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้และพืชพรรณต่างๆ เห็นแล้วสดชื่นมาก
กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในอุทยานฯ
ภายในอุทยานฯ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมพรรณไม้ ดูนก และดูผีเสื้อ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ผาแดง จุดชมวิวเขาช้างหลวง และผากระดานเลข ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย
ใครที่มีโอกาสไปเที่ยวพิษณุโลก และยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนกันดี เราแนะนำเลยครับในช่วงนี้ไปน้ำตก ไม่ผิดหวังประทับใจแน่นอน
การเดินทางไป อุทยาน
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำตก จากตัวเมืองพิษณุโลกสามารถเลือกได้ 2 เส้นทางหลัก
คือ เส้นทางพิษณุโลก–หล่มสัก ผ่านอำเภอนครไทย แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอชาติตระการ โดยมีจุดเลี้ยวขวาก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร แล้ววิ่งต่ออีก 10 กิโลเมตรจึงถึงอุทยาน รวมระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร
อีกเส้นทางคือสายพิษณุโลก–วัดโบสถ์ เลี้ยวขวาเข้าสายวัดโบสถ์–คันโซ้ง–โป่งแค่ แล้วเข้าสู่อำเภอชาติตระการ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อุทยาน รวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร เส้นทางนี้ใกล้กว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาเดินทาง balancecounseling
อุทยานแห่งชาติน้ำตก ค่าเข้าเท่าไหร่
- ผู้ใหญ่ 40 บาท
- เด็ก 20 บาท
อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ
- รถจักรยาน ไม่เสียค่าบริการ
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
- รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท
- รถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป 200 บาท