ตามที่มีการส่งต่อความเชื่อในโลกออนไลน์และในสังคมมายาวนาน เกี่ยวกับประเด็น “กินถั่วเหลือง” เช่น น้ำเต้าหู้ หรือ เต้าหู้ ว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิด “มะเร็งเต้านม” หรือทำให้ผู้ป่วยที่เคยรักษาหายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ จนทำให้เกิดความสับสนและกังวลในหมู่ประชาชน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ประเด็นดังกล่าวได้รับการอธิบายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กองบรรณาธิการ Sanook News จึงได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสรุปข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบ
![]()
กินถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ทำให้เสี่ยงมะเร็งเต้านม จริงหรือไม่?
คำถาม
มีความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมานานว่า การกินถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ หรือเต้าหู้ จะเป็นการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม หรือกระตุ้นให้โรคกลับมาเป็นซ้ำในผู้ที่เคยป่วย จริงหรือไม่?
การตรวจสอบ
อ้างอิงข้อมูลทางการแพทย์จาก นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการกิจการด้านปฐมภูมิ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่ได้โพสต์อธิบายเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊ก “หมอเจด” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
นพ.เจษฎ์ ยืนยันว่า ข้อมูลทางการแพทย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ถั่วเหลืองจากอาหารธรรมชาติ “ไม่เพิ่ม” ความเสี่ยงที่มะเร็งจะกลับมา และอาจช่วย “ลด” ความเสี่ยงนั้นด้วย
จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด มาจากสาร “ไอโซฟลาโวน” (ในกลุ่ม Phytoestrogens) ที่มีอยู่ในถั่วเหลือง ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ประกอบกับการทดลองในหนูเมื่อหลายปีก่อนพบว่ามันกระตุ้นการโตของเนื้องอกได้ แต่ปัญหาคือ ร่างกายมนุษย์เผาผลาญสารนี้ไม่เหมือนหนู และเมื่อทำการวิจัยในคนจริง ผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้าม

มีการอ้างอิงการศึกษาขนาดใหญ่ในมนุษย์ เช่น Shanghai Breast Cancer Survival Study (SBCSS) ที่ติดตามผู้ป่วยชาวจีนกว่า 5,000 คน พบว่าผู้ที่ สม่ำเสมอ มีอัตราการรอดชีวิตสูงกว่า และลดความเสี่ยงที่มะเร็งจะกลับมาเป็นซ้ำ แม้ในผู้ป่วยกลุ่ม ER-positive หรือผู้ที่ใช้ยาต้านฮอร์โมน
กลไกที่แท้จริงคือ ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองมีฤทธิ์อ่อนกว่าฮอร์โมนในมนุษย์มาก เมื่อกินเข้าไป มันจะไป “แย่งจับ” กับตัวรับเอสโตรเจน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนตัวจริง (ที่แรงกว่า) เข้าไปจับได้น้อยลง จึงเปรียบเหมือนการป้องกันแบบอ่อน ๆ คล้ายกลไกของยา Tamoxifen มากกว่าเป็นการกระตุ้น
อย่างไรก็ตาม นพ.เจษฎ์ แนะนำให้บริโภคในรูปแบบอาหารธรรมชาติ เช่น น้ำเต้าหู้ไม่หวาน, เต้าหู้, ถั่วแระญี่ปุ่น (ปริมาณแนะนำ 1-3 เสิร์ฟต่อวัน) และควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมสกัดเข้มข้น เช่น ผงโปรตีนถั่วเหลือง isolate หรือไอโซฟลาโวนแบบแคปซูล เนื่องจากมีโดสสูงเกินธรรมชาติและข้อมูลยังไม่ชัดเจน
ข้อเท็จจริง
สรุป: ความเชื่อที่ว่า น้ำเต้าหู้ แล้วเสี่ยงมะเร็งเต้านม หรือทำให้โรคกลับมา” นั้น “ไม่เป็นความจริง” ข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันยืนยันว่า การบริโภคถั่วเหลืองในรูปแบบอาหารธรรมชาติ ไม่เพิ่มความเสี่ยง และอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการกลับมาเป็นซ้ำของโรคได้
