คู่กรรม บทประพันธ์อมตะของ ทมยันตี ไม่เพียงแต่เป็นนวนิยายรักที่ถูกจารึกไว้ในใจของนักอ่านชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวที่ถูกนำมาสร้างซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งในรูปแบบของ ละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะบทบาทของ โกโบริ นายทหารญี่ปุ่นหนุ่มผู้มีรักต้องห้ามกับหญิงไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นบทบาทในตำนานที่นักแสดงหลายรุ่นต่างได้รับโอกาสมาสวมบท และสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
โกโบริ ใน “คู่กรรม” จากฟิล์มขาวดำสู่ดิจิตอล พระเอกใครบ้าง?

ละครโทรทัศน์: จากช่อง 4 บางขุนพรหรม สู่ยุคดิจิทัล
คู่กรรม ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกในปี
พ.ศ. 2513 ทาง ช่อง 4 บางขุนพรหม โดยมี มีชัย วีระไวทยะ รับบทโกโบริในเวอร์ชันบุกเบิกนี้ ถือเป็นละครเวอร์ชันแรกที่นำเสนอบทโกโบริผ่านหน้าจอทีวี และวางรากฐานความคลาสสิกของตัวละครนี้ไว้ให้คนไทยจดจำ
พ.ศ. 2515 ก็มีการสร้างเวอร์ชันใหม่อีกครั้งโดยยังคงฉายทางช่อง 4 เช่นเดิม โดยครั้งนี้เป็น ชนะ ศรีอุบล ที่รับบทโกโบริ คู่กับ ผาณิต กันตามระ ผู้รับบทอังศุมาลิน สะท้อนถึงความนิยมอย่างต่อเนื่องของบทประพันธ์เรื่องนี้ในยุคนั้น
พ.ศ. 2521 ช่อง 9 ได้รับช่วงนำมาสร้างใหม่ โดยเวอร์ชันนี้ได้ นิรุตต์ ศิริจรรยา มารับบทโกโบริ ส่วน ศันสนีย์ สมานวรวงศ์ รับบทอังศุมาลิน ถือเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่ผู้ชมยุคก่อนให้การยอมรับมาก และในภายหลัง นิรุตต์ยังได้กลับมาร่วมงานในโปรเจกต์ คู่กรรม อีกครั้ง โดยสวมบทเป็น “นายพลโทโมยูกิ” ในเวอร์ชันอื่น

พ.ศ. 2533 นับเป็นอีกจุดเปลี่ยนของละคร คู่กรรม เมื่อนักร้องขวัญใจมหาชน ธงไชย แมคอินไตย์ ได้รับบทโกโบริในเวอร์ชัน ช่อง 7 โดยจับคู่กับ กมลชนก โกมลฐิติ ซึ่งเวอร์ชันนี้ได้เสียงตอบรับถล่มทลาย และกลายเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของคู่กรรม
พ.ศ. 2547 คู่กรรม กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันของ ช่อง 3 โดยได้นักแสดงชื่อดังอย่าง ศรราม เทพพิทักษ์ มารับบทโกโบริ ร่วมกับ พรชิตา ณ สงขลา ในบทอังศุมาลิน เป็นอีกหนึ่งคู่ขวัญในยุคนั้นที่ถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องราวได้อย่างถึงพริกถึงขิง
พ.ศ. 2556 เมื่อ ค่ายเอ็กแซ็กท์ สร้าง “คู่กรรม” ฉบับใหม่ออกอากาศทาง ช่อง 5 โดยได้ สุกฤษฎ์ วิเศษแก้ว หรือ บี้ เดอะสตาร์ มารับบทโกโบริ ประกบกับ หนึ่งธิดา โสภณ หรือ หนูนา ในบทอังศุมาลิน เวอร์ชันนี้เป็นที่พูดถึงมากในแง่ของความตั้งใจและการเตรียมตัวของบี้ ที่ต้องฝึกภาษาญี่ปุ่น ศึกษาความสัมพันธ์เชิงจิตวิทยาของตัวละคร รวมถึงเรียนดนตรีญี่ปุ่น (เช่น ซามิเซ็ง และขิม) เพื่อถ่ายทอดตัวละครโกโบริออกมาอย่างสมจริง
ทุกเวอร์ชันของละคร คู่กรรม มีการปรับบทและรายละเอียดยิบย่อยให้เหมาะสมกับบริบทและยุคสมัย โดยเฉพาะแนวทางการนำเสนอผ่านโทรทัศน์ที่ต้องพัฒนาไปพร้อมกับรสนิยมของผู้ชมในแต่ละยุค

ภาพยนตร์ : โกโบริในจอใหญ่ กับความทรงจำที่ไม่จางหาย
นอกจากละครแล้ว คู่กรรม ยังถูกนำมาสร้างเป็น ภาพยนตร์ หลายครั้ง โดยเวอร์ชันแรกสุดคือในปี
พ.ศ. 2516 ที่สร้างโดยค่ายภาพยนตร์ไทย โดยได้นักแสดงดังในยุคนั้นอย่าง นาท ภูวนัย รับบทโกโบริ ประกบคู่กับ ดวงนภา อรรถพรพิศาล ภาพยนตร์เวอร์ชันนี้ถือเป็นการเปิดตัวโกโบริในเวอร์ชันจอใหญ่ ที่ทำให้คนดูได้สัมผัสอารมณ์และฉากหลังสงครามอย่างยิ่งใหญ่ขึ้น
พ.ศ. 2531 คืออีกหนึ่งเวอร์ชันที่กลายเป็นตำนานเมื่อ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น นำมาสร้างใหม่ โดยได้ วรุฒ วรธรรม รับบทโกโบริ และ จินตหรา สุขพัฒน์ รับบทอังศุมาลิน นี่ถือเป็นหนึ่งในเวอร์ชันที่ได้รับเสียงตอบรับดีที่สุด และยังถูกยกให้เป็นเวอร์ชันที่ตราตรึงใจแฟนภาพยนตร์มาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2538 ธงไชย แมคอินไตย์ ได้กลับมารับบทโกโบริอีกครั้ง แต่คราวนี้ในเวอร์ชันภาพยนตร์ โดยร่วมแสดงกับ อาภาศิริ นิติพน ในบทอังศุมาลิน การกลับมารับบทเดิมของเบิร์ดในสื่อที่ต่างกัน ยิ่งตอกย้ำบทบาทโกโบริของเขาให้ฝังลึกในใจแฟน ๆ
พ.ศ. 2556 ภาพยนตร์ คู่กรรม ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยได้ ณเดชน์ คูกิมิยะ นักแสดงซูเปอร์สตาร์รุ่นใหม่ในเวลานั้น มารับบทโกโบริ ประกบกับ อรเณศ ดีคาบาเลส หรือ ริชชี่ ในบทอังศุมาลิน ภาพยนตร์เวอร์ชันนี้ถือเป็นการ ตีความใหม่ โดยผู้กำกับ เรียว กิตติกร ที่เน้นความเป็นศิลปะร่วมสมัย ผสานบรรยากาศสงครามกับความรักที่ขัดแย้งในเชิงอุดมคติ ณเดชน์ยังได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ “อังศุมาลิน” ด้วยตนเอง ทำให้บทบาทโกโบริในเวอร์ชันนี้นอกจากจะสะเทือนอารมณ์แล้วยังเข้าถึงผู้ชมรุ่นใหม่ได้อย่างลึกซึ้ง
โกโบริ ตัวแทนแห่งรัก ท่ามกลางสงคราม
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัย โกโบริ ก็ยังคงเป็นตัวละครที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางเงาของสงครามและความขัดแย้งทางเชื้อชาติ บทบาทนี้ไม่เพียงแต่เป็นบทวัดฝีมือ สำหรับนักแสดงชายเท่านั้น แต่ยังเป็นบทที่คนดูจดจำ และรู้สึกผูกพันในฐานะ ผู้เสียสละ ที่รักได้อย่างบริสุทธิ์ใจ balancecounseling

