ผักถือเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมหรือกรดยูริกสูง การกินผักบางชนิดมากเกินไปอาจกลายเป็นเหมือน “ยาพิษ” ได้ ล่าสุดมีรายงานกรณีชายชาวจีนวัย 41 ปี จากเมืองกวางโจว เสียชีวิตด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน หลังรับประทานผักบางชนิดในปริมาณมากโดยไม่รู้ถึงความเสี่ยง
หมอเตือน ผัก 4 ชนิด กินมากเกินไปอันตราย เสี่ยงไตวายเฉียบพลัน
สาเหตุการเสียชีวิตจากการกินผักเกิน
ชายรายนี้มีอาการเหนื่อยล้าและปวดข้อ เมื่อเข้าตรวจพบว่ามีกรดยูริกในเลือดสูง แพทย์ได้แนะนำให้ลดเนื้อสัตว์และอาหารมัน พร้อมทั้งเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงผักที่มีพิวรีนสูง แต่เขาไม่ปฏิบัติตาม กลับเชื่อว่าผักทุกชนิดดีต่อสุขภาพ จึงหันมากินผักมากขึ้น โดยเฉพาะผักที่แพทย์แนะนำให้เลี่ยง
เมื่อเวลาผ่านไป กรดยูริกในเลือดของเขาสูงขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลต่อไตโดยไม่รู้ตัว ก่อนเสียชีวิตสองเดือน เขามีอาการน้ำหนักลดลง คลื่นไส้ ขาบวม และปัสสาวะเป็นเลือด แม้ถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ผัก 4 ชนิดที่ควรเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยไตและกรดยูริกสูง
แพทย์หวัง หยินเฟิง จากกวางโจว ระบุว่าผักที่ผู้ป่วยรายนี้กินเป็นประจำมีสารพิวรีนและโพแทสเซียมสูง ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไตและผู้ที่มีกรดยูริกสูง ได้แก่
- ผักโขมฝรั่ง/ปวยเล้ง (Spinach) พิวรีน 57–58 มก./100 กรัม โพแทสเซียม 500–700 มก./100 กรัม
- ผักกาดเขียว (Mustard Greens) พิวรีน 50–70 มก./100 กรัม โพแทสเซียมประมาณ 400 มก./100 กรัม
- ถั่วงอก (Bean Sprouts) พิวรีนเฉลี่ย 40–60 มก./100 กรัม โพแทสเซียม 300–400 มก./100 กรัม
- หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) พิวรีน 40–50 มก./100 กรัม โพแทสเซียม 200–250 มก./100 กรัม
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
นอกจากผักเหล่านี้แล้ว เห็ดก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่ควรระวัง ผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมหรือกรดยูริกสูงควรจำกัดปริมาณการบริโภค แม้จะมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่การกินมากเกินไปอาจกระทบต่อการทำงานของไตได้
สรุป
แม้ผักจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่ผู้ที่มีภาวะไตวายหรือกรดยูริกสูงควรระวังการเลือกกินผัก โดยเฉพาะผักที่มีพิวรีนและโพแทสเซียมสูง เช่น ผักโขม ผักกาดเขียว ถั่วงอก และหน่อไม้ฝรั่ง ควรรับประทานอย่างพอเหมาะ และปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ balancecounseling
