หลายคนมักคิดว่า มะเร็งเต้านม เป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้หญิง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน
แม้จะพบไม่บ่อยนัก (คิดเป็นเพียงประมาณ 1% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด) แต่หากเกิดขึ้นก็ถือว่าอันตรายไม่น้อย เพราะมักถูกตรวจพบในระยะหลังๆ เนื่องจากหลายคนไม่คาดคิดว่าเพศชายจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้
ทำไมผู้ชายถึงเป็นมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
ถึงแม้ผู้ชายจะไม่มีเต้านมที่พัฒนาเต็มเหมือนผู้หญิง แต่ก็ยังมี เนื้อเยื่อเต้านม อยู่บริเวณใต้หัวนมและปานนม ซึ่งสามารถเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่
-
พันธุกรรมและประวัติครอบครัว : หากมีคนในครอบครัว (โดยเฉพาะญาติสายตรง) เป็นมะเร็งเต้านม หรือมีการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 / BRCA2 จะเพิ่มความเสี่ยง
-
อายุ : ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีโอกาสพบโรคมากขึ้น
-
ฮอร์โมนผิดปกติ : ภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ เช่น โรคตับเรื้อรัง โรคอ้วน หรือการใช้ฮอร์โมนบางชนิด
-
การได้รับรังสี : เช่น เคยฉายรังสีบริเวณทรวงอก
-
ปัจจัยด้านพฤติกรรมและสุขภาพ : การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย
อาการเบื้องต้นที่ควรระวัง
แม้อาการจะใกล้เคียงกับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง แต่ในผู้ชายมักถูกมองข้าม ลองสังเกตความผิดปกติ ดังนี้
-
มีก้อนแข็งหรือตุ่มนูนเล็กๆใต้หัวนมหรือรอบปานนม
-
หัวนมหดตัวหรือบิดเบี้ยวไปจากปกติ
-
มีน้ำหรือเลือดออกจากหัวนมโดยไม่ทราบสาเหตุ
-
ผิวหนังบริเวณเต้านมเปลี่ยนแปลง เช่น มีรอยบุ๋ม แดง หรือหนาแข็งผิดปกติ
-
คลำเจอต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณรักแร้
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม ไม่ควรนิ่งนอนใจ
การป้องกันและการดูแลตัวเอง
แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการดูแลสุขภาพ เช่น
-
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-
ลดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
-
ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
บทสรุป
มะเร็งเต้านมในผู้ชายอาจพบไม่บ่อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และมักถูกตรวจเจอช้า ทำให้การรักษายุ่งยากขึ้น
การรู้เท่าทันสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และสังเกตอาการเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากพบความผิดปกติไม่ควรละเลย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและดูแลอย่างถูกต้อง balancecounseling