ยาอายุวัฒนะแห่งฤดูร้อน ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก

ยาอายุวัฒนะแห่งฤดูร้อน ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก

ยาอายุวัฒนะแห่งฤดูร้อน เป็นผลไม้ที่คุ้นเคยในมื้ออาหารของครอบครัวชาวไทย ราคาไม่แพง แต่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม สามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอร่อยได้หลากหลาย และมอบคุณประโยชน์ต่อสุขภาพเกินคาด

ผลฟักไม่เพียงแต่อุดมด้วยน้ำ แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี วิตามินซี และวิตามินบี 6 ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หลายคนกลับไม่รู้ถึงคุณค่าที่ซ่อนอยู่ของฟักชนิดนี้

ยาอายุวัฒนะแห่งฤดูร้อน

ผลไม้ชนิดนี้คือ “ยาอายุวัฒนะแห่งฤดูร้อน” ดีต่อสุขภาพ

นพ.ฝอ่ ถวน เฮือง ชาวเวียดนาม อธิบายว่า ฟักเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสหวาน เย็น สดชื่น เหมาะกับการบริโภคในฤดูร้อน อีกทั้งยังช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่มักเกิดในสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ฝี หนอง ไข้ ไอ ปัสสาวะแดง และท้องผูก

ฟักมีสารอาหารและสารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 96% ให้พลังงานต่ำ ไขมันต่ำ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตน้อย แต่ยังคงอุดมด้วยใยอาหารและมีสารอาหารอื่น ๆ ในปริมาณเหมาะสม

ฟักยังเป็นแหล่งวิตามินที่ดี โดยเฉพาะวิตามินซีและกลุ่มวิตามินบี วิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรงสดใส

นอกจากนี้ ฟักยังเป็นแหล่งของฟลาโวนอยด์และแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เชื่อว่าช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายของเซลล์ และลดความเสี่ยงต่อโรคบางชนิด เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจ

วิตามินบีในฟักยังมีบทบาทหลากหลายต่อร่างกาย ทั้งในการสร้างพลังงานและการดูแลสุขภาพระบบประสาท

ในด้านแร่ธาตุ ฟักมีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง แมงกานีส โพแทสเซียม และแคลเซียม โดยเฉพาะโพแทสเซียมที่จำเป็นต่อการทำงานของหัวใจ และช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับสมดุล ขณะที่แมกนีเซียมก็มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

ประโยชน์ต่อสุขภาพจากฟัก

เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ร่างกายยิ่งต้องการอาหารที่ช่วยคลายร้อนและคงความชุ่มชื้น ฟักจึงเป็นแหล่งสารอาหารที่เหมาะสม ช่วยบำรุงสุขภาพทั้งภายในและภายนอกอย่างสมบูรณ์

“เพื่อนสนิท” ของระบบย่อยอาหารที่แข็งแรง

ระบบย่อยอาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และฟักคือ “กุญแจ” ที่ช่วยให้ระบบนี้ทำงานได้อย่างราบรื่น ฟักอุดมด้วยใยอาหาร ทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ใยอาหารไม่ละลายน้ำช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ป้องกันท้องผูก และทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ

ส่วนใยอาหารละลายน้ำเป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยส่งเสริมสมดุลของระบบจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น และเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต

สำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ฟักถือเป็นตัวเลือกอาหารที่ชาญฉลาด งานวิจัยบางชิ้นระบุว่าฟักช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการชะลอการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต

นอกจากนี้ ฟักยังอุดมด้วยโพแทสเซียมซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปรับสมดุลความดันโลหิต โพแทสเซียมช่วยปรับสมดุลโซเดียมในร่างกาย ขยายหลอดเลือด ลดแรงกดดันต่อผนังหลอดเลือด จึงปกป้องสุขภาพหัวใจและลดความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง

ลดความเครียดและช่วยให้นอนหลับดีขึ้น

ชีวิตยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความกดดันทำให้เรามักเผชิญความเครียดและนอนไม่หลับ โชคดีที่ฟักสามารถเป็นตัวช่วยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟักมีสารธรรมชาติบางชนิดที่ออกฤทธิ์สงบประสาท ช่วยคลายความวิตกกังวลและความตึงเครียด ทำให้จิตใจผ่อนคลายและนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

การดื่มน้ำฟักอุ่น ๆ หรือรับประทานเมนูจากฟักในช่วงเย็น ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เข้านอนง่ายขึ้น และนอนหลับลึกเต็มอิ่ม

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ฟักอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานปกติของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งจำเป็นต่อการต่อต้านการติดเชื้อ การเพิ่มฟักเข้าไปในรายการอาหารที่มีประโยชน์จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงและป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น

เคล็ดลับเพื่อผิวสวยสุขภาพดีและผมเงางาม

สุขภาพไม่ได้สะท้อนเพียงรูปร่าง แต่ยังปรากฏผ่านความงามภายนอก น้ำในฟักสูง รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ ช่วยบำรุงผิวจากภายใน

ฟักช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มเนียน กระจ่างใส ส่วนเส้นผมก็ได้รับสารอาหารที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วง และทำให้ผมเงางามเป็นธรรมชาติ

ข้อควรระวังเกี่ยวกับฟัก

แม้ว่าการบริโภคฟักจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ยังมีผลข้างเคียงบางประการที่ควรทราบ:

  • ระคายเคืองกระเพาะอาหาร: ฟักอาจมีสารคูคูร์บิแทซิน (cucurbitacin) ซึ่งทำให้เกิดความไม่สบายท้อง โดยเฉพาะผลที่มีรสขม

  • ปฏิกิริยาแพ้: บางคนอาจแพ้ฟัก เช่น บวม ผื่น หรือคัน หากมีอาการหลังรับประทานควรหยุดและปรึกษาแพทย์

  • ระดับน้ำตาลในเลือด: แม้ฟักจะมีดัชนีน้ำตาลต่ำและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้ระดับน้ำตาลเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรติดตามระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิดหากรับประทานฟักเป็นประจำ

  • ปฏิกิริยากับยา: ฟักอาจมีผลต่อยาบางชนิด หากกำลังใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานฟักเป็นประจำ balancecounseling