อยากเที่ยวเกาหลี? ขอ วีซ่า เกาหลี และ K-ETA ฉบับเข้าใจง่าย หมดกังวลเรื่อง ตม.!
ขอ วีซ่า เกาหลี สวัสดีค่ะ! จาก Couplemarryvisa ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาวีซ่า วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดเกี่ยวกับการเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ไม่ว่าคุณจะสงสัยเรื่อง K-ETA, กังวลว่าถ้า K-ETA ไม่ผ่านต้องทำอย่างไร หรือกลัวจะเจอคำถามโหดๆ จาก ตม. (ด่านตรวจคนเข้าเมือง) บทความนี้มีคำตอบให้ครบ จบในที่เดียว!
ด่านที่ 1 K-ETA คืออะไร? สมัครยังไงให้ผ่านฉลุย!
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ปัจจุบันคนไทยที่จะไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ทุกคนต้องลงทะเบียน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ก่อนเดินทาง K-ETA ไม่ใช่วีซ่า แต่เป็นระบบขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศทางออนไลน์ ขอ วีซ่า เกาหลี
Checklist เตรียมตัวลง K-ETA:
- เว็บไซต์ทางการเท่านั้น: https://www.k-eta.go.kr (ระวังเว็บไซต์ปลอม!)
- หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายหน้าตรง: ไฟล์รูปพื้นหลังขาว เห็นใบหน้าชัดเจน
- ข้อมูลที่พักในเกาหลี: ชื่อโรงแรม, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ (ควรจองที่พักก่อนลงทะเบียน)
- บัตรเครดิต/เดบิต: สำหรับชำระค่าธรรมเนียม 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท)
เคล็ดลับเพิ่มโอกาส K-ETA ผ่าน:
- กรอกข้อมูลให้ตรงเป๊ะ: ชื่อ-นามสกุล, เลขพาสปอร์ต ต้องตรงกับหน้าหนังสือเดินทางทุกตัวอักษร
- วัตถุประสงค์ชัดเจน: เลือก “Tour/Tourism” และระบุแผนการเดินทางคร่าวๆ
- ข้อมูลที่พักน่าเชื่อถือ: ควรเป็นโรงแรมจริงที่มีข้อมูลชัดเจน ตรวจสอบได้
- สมัครล่วงหน้า: ควรทำก่อนเดินทางอย่างน้อย 72 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์เพื่อความชัวร์
โดยปกติผล K-ETA จะส่งมาทางอีเมลภายใน 24-72 ชั่วโมง เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จะมีอายุใช้งานนานถึง 3 ปี (หรือตามอายุพาสปอร์ต)
ด่านที่ 2 K-ETA ไม่ผ่าน! ต้องทำอย่างไรต่อ?
“K-ETA Not Approved” คือข้อความที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง อย่าเพิ่งถอดใจยกเลิกตั๋ว! นี่คือสัญญาณว่าคุณต้อง переходит (переходит) ไปสู่ขั้นตอนการ “ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวประเภท C-3-9” ที่สถานทูตเกาหลีโดยตรง
ขั้นตอนการยื่นวีซ่าท่องเที่ยว (เมื่อ K-ETA ไม่ผ่าน):
- เตรียมเอกสารให้แน่น: การขอวีซ่าต้องใช้เอกสารเยอะและละเอียดกว่า K-ETA มาก หัวใจสำคัญคือการพิสูจน์ว่าเราจะไปท่องเที่ยวและจะกลับมาประเทศไทยแน่นอน
- เดินทางไปสถานทูตฯ: สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (แถวเทียมร่วมมิตร) ไม่ต้องจองคิว สามารถ Walk-in ไปยื่นได้เลย
- เวลายื่นเอกสาร: จันทร์ – ศุกร์, 08:30 – 11:00 น.
Checklist เอกสารยื่นวีซ่า C-3-9:
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า: กรอกข้อมูลครบถ้วนพร้อมติดรูปถ่ายสี 1.5 นิ้ว
- Passport เล่มจริง + สำเนา
- หลักฐาน K-ETA ไม่ผ่าน: พิมพ์อีเมลที่แจ้งผลออกมา
- หลักฐานการเงิน (สำคัญมาก!):
- Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (ตัวจริงจากธนาคาร) บัญชีควรมีเงินหมุนเวียนและมีเงินคงเหลือเพียงพอต่อค่าใช้จ่าย (แนะนำ 50,000 บาทขึ้นไป)
- Bank Guarantee (หนังสือรับรองการเงิน)
- หลักฐานการทำงาน/การเรียน (ตัวจริง ภาษาอังกฤษ):
- พนักงาน: หนังสือรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่ง เงินเดือน อายุงาน
- เจ้าของธุรกิจ: หนังสือรับรองบริษัท/ทะเบียนการค้า (แปลอังกฤษ)
- นักเรียน: หนังสือรับรองสถานะการเป็นนักเรียน
- แผนการเดินทาง (Itinerary): เขียนแผนเที่ยวแต่ละวันว่าจะไปที่ไหนบ้าง
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
- ใบจองโรงแรม/ที่พัก (ต้องครอบคลุมทุกคืน)
- ค่าธรรมเนียม: 1,280 บาท (เตรียมเงินสดไปให้พอดี)
ระยะเวลาพิจารณา: อย่างน้อย 15 วันทำการ ควรเผื่อเวลาให้ดี
ด่านสุดท้าย พิชิต ตม. เกาหลี ด้วยความมั่นใจ
ไม่ว่า K-ETA จะผ่านฉลุย หรือได้วีซ่ามาแล้ว ด่านสุดท้ายที่ทุกคนต้องเจอคือ ตม. เกาหลี การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณผ่านไปได้อย่างราบรื่น
สิ่งที่ควรเตรียมพร้อม (ถือติดตัวไว้):
- เอกสารครบมือ: Passport, ตั๋วเครื่องบินขากลับ, ใบจองโรงแรม, แผนการเดินทาง
- ตอบคำถามอย่างมั่นใจ: ตม. อาจถามคำถามง่ายๆ เช่น “มากี่วัน?” (How long will you stay?), “มาทำอะไร?” (What is your purpose?), “พักที่ไหน?” (Where are you staying?) ให้ตอบตามความจริงที่เตรียมมาด้วยท่าทีเป็นมิตรและมั่นใจ
- การแต่งกาย: แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับสภาพอากาศ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
การขอวีซ่าเกาหลีหรือลงทะเบียน K-ETA ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราเตรียมตัวให้พร้อมและทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง หากคุณรู้สึกว่ากระบวนการซับซ้อนและต้องการผู้ช่วยมืออาชีพ Couplemarryvisa พร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร เพื่อให้การเดินทางไปเกาหลีของคุณเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล
ติดต่อเราได้เลยที่
- Website: https://couplemarryvisa.co/
- TikTok: @couplemarry
- Instagram: @couplemarryvisa
- LINE: @couplemarry