ทุกบ้านล้วนมี เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 อย่าง ที่ “แอบกินไฟยิ่งกว่าแอร์” ไม่แปลกที่บิลค่าไฟจะพุ่งไม่หยุด
เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 อย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดในบ้านนี่แหละ คือ “ตัวการแอบกินไฟ” ที่น่ากลัวกว่าที่คิด
หลายคนมักโทษว่าเครื่องปรับอากาศคือสาเหตุหลักทำให้ค่าไฟพุ่งสูง แต่ตามข้อมูลของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ยังมีเครื่องใช้หลายชนิดที่ทำงานเงียบ ๆ แต่กลับใช้ไฟมหาศาล บางอย่างกินไฟมากกว่าแอร์เสียอีก เครื่องใช้ไฟฟ้า 6 อย่าง
- ตู้เย็นที่ทำงานตลอดเวลา
ในทุกบ้าน ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
- คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ – ตัวกินไฟเงียบ ๆ
คอมพิวเตอร์พีซีที่เปิดเฉลี่ยวันละ 12 ชั่วโมง ใช้ไฟประมาณ 72–75 หน่วยต่อเดือน หากเป็นเครื่องสเปกสูง มีการ์ดจอแยกหรือจอขนาดใหญ่ จะยิ่งกินไฟมากกว่าเดิม ผู้ที่ทำงานที่บ้าน ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมหนัก ๆ จึงอาจสิ้นเปลืองค่าไฟโดยไม่ทันสังเกต
- หม้อหุงข้าว – เล็กแต่กินไฟไม่น้อย
หม้อหุงข้าวกำลังไฟ 500 วัตต์ หากใช้งานวันละ 2 ชั่วโมง จะกินไฟถึง 20–25 หน่วยต่อเดือน โดยเฉพาะการอุ่นซ้ำหรือเปิดโหมดอุ่นทิ้งไว้นาน ๆ ยิ่งทำให้สิ้นเปลืองไฟมากกว่าการหุงปกติถึงเกือบครึ่งหนึ่ง- ทีวี – ไม่ปิดสนิทก็เปลืองไฟ
ทีวี LCD กำลังไฟ 150 วัตต์ หากเปิดวันละ 5 ชั่วโมง จะใช้ไฟประมาณ 20–25 หน่วยต่อเดือน ส่วนทีวีรุ่นใหม่อย่าง OLED หรือ QLED ใช้ไฟมากกว่านั้นอีก ที่น่าห่วงคือหลายบ้านมักกดเพียงโหมดสแตนด์บายแทนการปิดเครื่องจริง แม้จะดูเหมือนใช้ไฟเล็กน้อย แต่เมื่อสะสมทั้งเดือนก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายไม่น้อย
การใช้ไฟค่อนข้างคงที่ โดยตู้เย็นขนาดเล็กกินไฟราว 10–15 หน่วยต่อเดือน ตู้ขนาดกลาง 30–45 หน่วยต่อเดือน ส่วนตู้ใหญ่กินไฟได้ถึง 50–65 หน่วยต่อเดือน และหากเป็นตู้รุ่นเก่าที่ประสิทธิภาพต่ำ จะยิ่งสิ้นเปลืองไฟมากกว่าตู้รุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงาน
- เตาไฟฟ้า – ตัวการทำบิลค่าไฟพุ่งทุกเดือน
ถือเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ที่ใช้ไฟมากที่สุด โดยการใช้เตาไฟฟ้า (ทั้งเตาอินฟราเรดและเตาแม่เหล็กไฟฟ้า) วันละประมาณ 3 ชั่วโมง จะกินไฟเฉลี่ย 85–95 หน่วยต่อเดือนสำหรับเตาเดี่ยว และสูงถึง 170–190 หน่วยต่อเดือนสำหรับเตาคู่ ต่างจากแอร์ที่ใช้ตามฤดูกาล เตาไฟฟ้าถูกใช้งานทุกวันตลอดปี จึงส่งผลชัดเจนต่อบิลค่าไฟ
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงอากาศร้อน การระบายความร้อนของเตาหลังการใช้งานก็ยังสิ้นเปลืองไฟมากกว่าปกติ
- เครื่องทำน้ำอุ่น – เปิดทิ้งไว้ ค่าไฟพุ่งไม่รู้ตัว
เครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 20 ลิตร หากเปิดใช้งานเพียงวันละ 1 ชั่วโมง จะใช้ไฟราว 70–80 หน่วยต่อเดือน แต่หากปล่อยให้ทำงานทั้งวัน ปริมาณไฟอาจพุ่งขึ้นถึง 320–340 หน่วยต่อเดือน หลายครอบครัวมักเผลอเปิดค้างไว้เพื่อความสะดวก ซึ่งไม่เพียงทำให้ค่าไฟบาน แต่ยังทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลงด้วย
- เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็กินไฟเงียบ ๆ
เตารีดไฟฟ้า เตาอบไมโครเวฟ และอุปกรณ์เครือข่ายก็อยู่ในลิสต์สิ้นเปลืองไฟเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ไมโครเวฟกำลังไฟ 1,000 วัตต์ หากใช้งานวันละ 30 นาที จะกินไฟ 10–20 หน่วยต่อเดือน ส่วนอุปกรณ์อย่างโมเด็ม เราเตอร์ Wi-Fi หรือกล้องวงจรปิด แม้จะใช้ไฟเพียง 8–12 หน่วยต่อเดือน แต่เพราะต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จึงรวมแล้วสิ้นเปลืองไฟไม่น้อย โดยเฉพาะในบ้านที่ใช้หลายเครื่องพร้อมกัน
4 หลักง่าย ๆ ช่วยครอบครัวประหยัดไฟได้จริง
1. ปิดอุปกรณ์เมื่อไม่ใช้งาน
นิสัยเล็ก ๆ ที่ช่วยลดค่าไฟได้มาก คือการปิดไฟ ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เมื่อออกจากห้อง ที่สำคัญ อุปกรณ์บางชนิดยังคงใช้ไฟแม้ไม่ได้เปิด เช่น ที่ชาร์จโทรศัพท์หรือแล็ปท็อป ดังนั้น ควรถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งาน จะช่วยลดการสิ้นเปลืองไฟลงได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ ควรใช้ฟังก์ชันตั้งเวลาของแอร์ พัดลม หรือไฟ เพื่อควบคุมระยะเวลาใช้งานและป้องกันการใช้ไฟเกินความจำเป็น
2. ใช้แอร์อย่างชาญฉลาด
แม้แอร์จะขึ้นชื่อว่าเป็นตัวการกินไฟอันดับต้น ๆ แต่หากใช้ให้ถูกวิธี ก็ช่วยลดค่าไฟได้มาก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิระหว่าง 25–27 องศาเซลเซียส ซึ่งทั้งสบายและประหยัดไฟ เพียงแค่ลดลง 1 องศา การใช้ไฟก็เพิ่มขึ้นถึง 3–5% แล้ว
นอกจากนี้ แอร์รุ่นใหม่หลายรุ่นมาพร้อมโหมด Eco ที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยยังคงความเย็นสบาย และอย่าลืมทำความสะอาดแผ่นกรอง รวมถึงตรวจเช็กบำรุงรักษาเป็นประจำ เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและไม่เปลืองไฟโดยใช่เหตุ
3. ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด
แสงแดดนอกจากช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในบ้านโปร่งสบาย การเปิดหน้าต่างหรือดึงม่านในช่วงเช้าหรือบ่าย จะช่วยลดความจำเป็นในการเปิดไฟได้มาก หากเป็นไปได้ ควรติดตั้งหน้าต่างที่มีฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้คงที่ ลดการพึ่งพาพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ
4. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
วิธีลดค่าไฟอย่างยั่งยืน คือการเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดพลังงานระดับ 4–5 ดาว ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือแม้แต่หลอดไฟ LED ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้ไฟน้อยแต่ยังคงประสิทธิภาพเต็มที่ ในวันที่อากาศไม่ร้อนมาก การใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศก็ช่วยให้เย็นสบาย แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย balancecounseling