4 อาหาร พิษตามธรรมชาติ  กินผิดวิธีเสี่ยงหมดสติหรือเสียชีวิต

4 อาหาร พิษตามธรรมชาติ กินผิดวิธีเสี่ยงหมดสติหรือเสียชีวิต

4 อาหาร พิษตามธรรมชาติ กินผิดวิธีเสี่ยงหมดสติหรือเสียชีวิต

รู้หรือไม่ว่า บางอาหารใกล้ตัวของเรา แม้ดูเผินๆ จะปลอดภัย แต่อาจแฝงไว้ด้วย “สารพิษจากธรรมชาติ” ที่หากปรุงหรือรับประทานผิดวิธี อาจก่อให้เกิดอาการมึนงง หมดสติ หรือแม้แต่เสียชีวิตได้

ต่อไปนี้คือ 4 อาหาร พิษตามธรรมชาติ อาหารยอดนิยมที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ควรระมัดระวังในการบริโภคอย่างยิ่ง

4 อาหาร พิษตามธรรมชาติ

1. หน่อไม้สด

หน่อไม้สด เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะในฤดูฝน แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ หน่อไม้สดมีสารไซยาไนด์อยู่ในปริมาณสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดไฮโดรไซยานิก (HCN) ซึ่งเป็นพิษร้ายแรงต่อระบบประสาท ดังนั้น หน่อไม้สดควรต้มให้เดือดหลายครั้ง และเปลี่ยนน้ำทุกครั้ง ก่อนนำมาปรุงอาหาร

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากร่างกายได้รับ HCN เพียง 50 มิลลิกรัม ในคนหนัก 50 กิโลกรัม ก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ อาการของพิษจากหน่อไม้จะเริ่มภายใน 5–30 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ อาการเบื้องต้น ได้แก่ เวียนศีรษะ วิตกกังวล ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือหายใจติดขัด ส่วนอาการรุนแรงคือ ชัก กล้ามเนื้อเกร็ง ม่านตาขยาย ตัวเขียว หมดสติ และหยุดหายใจ

2. มะเขือเทศดิบ (มะเขือเทศเขียว)

มะเขือเทศเขียว ที่ยังไม่สุกเต็มที่ นิยมนำมาดองหรือนำไปประกอบอาหารในบางครัวเรือน แต่จริงๆ แล้วมีสารพิษจากธรรมชาติชื่อว่า โทมาไทดีน (Tomatidine) สูงถึง 58 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

เมื่อร่างกายรับเข้าไป อาจมีอาการเวียนหัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีน้ำลายไหลมากผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือ ควรบริโภคเฉพาะมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ และควรเอาเมล็ดออกก่อนปรุง เพื่อลดความเสี่ยงจากการย่อยยากหรือเกิดการระคายเคือง

3. มันสำปะหลัง 

มันสำปะหลัง เป็นอาหารที่คุ้นเคย โดยเฉพาะในครัวเรือนชนบท แต่เปลือกและเส้นใยของมันกลับมีสารพิษตามธรรมชาติชื่อว่า เฮเทอโรไซด์ (Heteroside) ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดไฮโดรไซยานิกเช่นเดียวกับหน่อไม้

หากรับประทานมันสำปะหลังที่ปรุงไม่ถูกวิธี อาจเกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย เวียนหัว หรือปวดศีรษะ ในกรณีรุนแรง อาจถึงขั้นชัก ม่านตาขยาย หมดสติ หายใจล้มเหลว และเสียชีวิต ดังนั้น วิธีลดความเสี่ยงคือ ปอกเปลือกให้สะอาด แช่น้ำหลายชั่วโมง และต้มจนสุกทั่วทั้งหัว ห้ามรับประทานมันสำปะหลังดิบโดยเด็ดขาด

4. มันฝรั่งที่มีหน่อหรือเปลี่ยนสี

มันฝรั่งที่งอกเป็นหน่อ หรือมีสีเขียว–ม่วงบริเวณเปลือก เป็นแหล่งสะสมของสารอัลคาลอยด์ที่มีพิษ เช่น โซลานีน (Solanine) โดยปกติมันฝรั่ง 100 กรัม จะมีโซลานีนเพียง 10 มิลลิกรัม ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อมันฝรั่งเริ่มงอกหรือเปลี่ยนสี สารพิษจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

อาการเมื่อได้รับพิษจากมันฝรั่ง ได้แก่ คอแห้ง หายใจลำบาก ปวดท้อง ท้องเสีย ลิ้นชา เวียนหัว และหากรุนแรงอาจมีไข้สูง ชัก ระบบหายใจล้มเหลว หมดสติ และเสียชีวิต ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมันฝรั่งที่งอกหรือมีสีผิดปกติ และควรเก็บในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดด

แม้อาหารเหล่านี้จะดูคุ้นเคยและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่หากบริโภคโดยไม่ระวัง อาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนั้น การปรุงอาหารให้ถูกวิธี และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสัญญาณผิดปกติคือสิ่งสำคัญในการดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก balancecounseling