สไปเดอร์-แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม

สไปเดอร์-แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม นักแสดงนี้ได้ เจสัน ชวาต์ซแมน (Jason Schwartzman) มาให้เสียง ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับที่หนังได้เพิ่มมิติให้ผู้แสดงนี้มีไม่เหมือนกันไปจากเดิม ทั้งยังลักษณะท่าทางทะเล่อทะล่าเงอะงะในทีแรกๆแต่ว่าก็เบาๆปรับปรุงขึ้นรวมทั้งเปิดเผยเงื่อนว่าเขาเป็นหนึ่งในเหยื่อผลพวงจากเหตุในภาคแรก เพียงพอรวมกับบุคลิกลักษณะแบบบ้าๆบอๆเดายากภายหลังจากพบว่าหลุมมิติของเขาใช้ผ่านไปจักรวาลอื่นได้ ก็ทำให้เขาลงมือแก้เผ็ดได้อย่างน่าหวาดหวั่นอย่างที่สุด

หนึ่งปีผ่านไป ชายหนุ่มที่บรูคลิน ไมล์ส โมราเลส (Shameik Moore จากหนังเรื่อง ‘Dope’ รวมทั้ง ‘Samaritan’) พบว่า ตนเองถูกตัดขาดจากเพื่อนสไปเดอร์ที่เคยร่วมต่อสู้กันมาในภาคแรก แต่ว่าเขาก็เติบโตขึ้น แล้วก็มีความรู้และมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นจนถึงแปลงเป็นวีรบุรุษวัยไฮสคูล สไปเดอร์-แมน ผงาดสู่จักรวาลแมงมุม แม้กระนั้นการที่พวกเขามิได้เจอะกัน ก็ทำให้อีกทั้ง ไมลส์ แล้วก็ เกวน สเตซี่ (Hailee Steinfeld จากหนังเรื่อง ‘Bumblebee’ และก็ซีรีส์เรื่อง ‘Dickinson’) รู้สึกถึงการขาดหายไปของกลุ่มชนที่รู้เรื่องพวกเขา

ก่อนที่จะถัดมา ไมลส์จะพบว่า โลกของเขากำลังจะมีคนร้ายตัวใหม่ นามว่า สป็อต (Jason Schwartzman) ผู้มีพลังของหลุมมิติ ที่ละเมิดเข้าไปยังโลกต่างๆได้ และก็มันได้ชักพาเขาให้เข้าไปเกี่ยวพันรวมทั้งเผชิญกับเหล่าสไปเดอร์แมนจากมิติอื่น หนังก็เลยแทรกสอดลูกเล่นแล้วก็มุกต่างๆเข้ามาได้แบบไม่ยั้ง แล้วก็เป็นลูกเล่นและก็มุกสถานที่ทำงานสำเร็จกันทุกดอกเสียด้วย แถมเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์แฟนคลับกันได้แบบหลายตลบ

รีวิว สไปเดอร์-แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม ภาคต่อที่สุดยอด

กลับมาอีกทีกับ สไปเดอร์-แมน ซูเปอร์วีรบุรุษอันดับที่หนึ่งที่ชนะใจคนทุกเพศทุกวัยชั่วกับชั่วกัลป์ ตอนนี้มาในต้นแบบภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ Spider-Man: Across the Spider-Verse สไปเดอร์-แมน: ผงาดผ่านจักรวาลแมงมุมซึ่งการฉาย รอบสื่อมวลชน เมื่อคืนนี้วันที่ 30 เดือนพฤษภาคม 2566 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก็เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนคลับตัวจริงของ ไอ้แมงมุม ได้ตลอดทั้งเรื่องกันอย่างยิ่งจริงๆ ด้วยเหตุว่าเนื่องจากว่าเป็นแอนิเมชั่น

ถามคำถามว่าบันเทิงใจมั้ย แน่ๆว่าหนังมีความเพลิดเพลินให้ผู้ชมเต็มเปี่ยม ไม่ผิดหวังแน่ๆ มองสนุกสนานมองเพลิดเพลินตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ หนังมีความยาวพอควร แต่ว่าไม่รู้เรื่องสึกน่ารำคาญไหมจำเป็นต้องถามตนเองระหว่างตูว่าเมื่อใดจะจบ ถึงแม้ว่าเรื่องราวแบบทะลุมัลติเวิร์สจะไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่อีกต่อไปแล้ว แม้กระนั้นมันก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกบันเทิงใจได้ทุกหนกับการทะลุผ่านมิติว่าโผล่ไปแล้วมันจะพบอะไร? มันจะไปไม่ถูกหรือไปถูก?

ยิ่งกว่านั้นหน้าที่ที่เข้ามาเต็มกำลังภายหลังปรากฏในเอนด์เครดิตสั้นๆในภาคแรกของ สไปเดอร์แมน 2099 หรือ ไม่เกล โอฮารา ซึ่งสวมบทหัวหน้ากรุ๊ปสไปเดอร์-โซไซตี้ที่เก็บรวบรวมสไปเดอร์แมนในทุกจักรวาล แล้วก็ได้ ออสการ์ ไอแซก (Oscar Isaac) ให้เสียงที่ลุ่มลึกมีพลังก็ทำให้เรื่องราวน่าดึงดูด นักแสดงโอฮาราจัดว่าถูกวางมาเป็นเงื่อนใหม่ของเรื่องที่มีมิติหลายมุมมองเชิญโต้เถียงถึงคำว่าสิ่งที่ถูกเป็นอย่างไร

จริงๆก็มีความเหมือนกับหนังที่เล่นกับผู้รักษาเส้นเวลาเรื่องอื่นๆอยู่บ้าง แตกต่างเพียงแค่หัวข้อนี้สามารถขยายชะตาชีวิตของการเป็นสไปเดอร์แมนนั้น เป็นตัวร้ายหนึ่งของเรื่องได้อย่างกลมกลืนและก็ทรงประสิทธิภาพมากมาย แล้วก็มันหว่านล้อมพวกเราให้อินกระทั่งเครียดตามไมล์สและก็เหล่าผองเพื่อนพ้องไปด้วยก็ได้ลุ้นกันไปเพลิดเพลินๆพร้อมสีสันผ่องใสสะดุดตาที่เป็นเอกลักษณ์ของแอนิเมชั่น Spider-Man ทุกคราว

หนังมันทรงอำนาจเสียกระทั่งรู้สึกว่านี่บางทีอาจเปลี่ยนเป็นว่าที่หนังตรีภาคของสไปเดอร์แมนที่ยอดเยี่ยมที่เคยมีการสร้างมาเลยก็ได้ มันอหังการ์ต่อทั้งยังแฟนบอยที่ได้มองสไปดี้รวมกันในหนังเยอะที่สุดในทุกจักรวาลอีกทั้งคอมิก แอนิเมชัน เกม หนังคนแสดง มันอหังการ์ต่อนักวิพากษ์วิจารณ์ด้วยงานภาพชั้นยอดเยี่ยม รายละเอียดที่เข้มข้นสร้างเงื่อนมีความขัดแย้งในทุกระดับโดยมีตัวร้ายที่สุดยอดรวมทั้งวิวัฒนาการของนักแสดงผ่านเรื่องราวของครอบครัวที่เชื้อเชิญปวดศีรษะหัวใจ

หนังมีข้อเสียบ้างตรงที่เวลาออกจะนานถึง 2 ชั่วโมงแทบครึ่ง ซึ่งภาพรวมบางทีอาจบันเทิงใจจนกระทั่งราวกับเวลาผ่านไปไวแต่ว่าก็มีหลายฉากดราม่าที่ทำเป็นดีจนกระทั่งเป็นหนังสั้นซึ้งๆสักเรื่องได้เลย แต่ว่าด้วยจังหวะที่จำต้องยืดเพื่อขยี้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าพอเพียงหนังจังหวะมันไวจู่ๆแล้วมันดึงจนถึงย้วยลงหน่อยรวมทั้งมันอหังการ์ต่อผู้ชมหนังทั่วๆไป ที่จะอิน ซึ้งร้องไห้ เครียดขมักเขม้นซีเรียส และก็หัวเราะขำขัน ลุ้นมัน สนุกสนาน ไปพร้อมอย่างพอดี

นอกเหนือจากนั้นเงื่อนสำคัญของเรื่องที่บางทีอาจทอดยาวไปถึงภายหน้ามันมีคำใบ้ผ่านเรื่องราวของเกวนที่เชิญให้มีความคิดว่าบางครั้งอาจจะเล่นท่าง่ายไปสักนิดสักหน่อย แม้กระนั้นก็มั่นใจว่าหนังคงจะใส่ปัญหาผ่านความไม่ถูกกันที่ก่อร่างขึ้นแปลงเป็น 3-4 กรุ๊ปที่ผลตอบแทนแย้งกันคนละทางในด้านหลังเรื่อง ไปเติมเต็มให้เงื่อนหลักมันจะต้องลุ้นกันจนถึงหยาดหยดในที่สุดของภาคจบอย่างยิ่งจริงๆ

รีวิวซีรีส์ Black Mirror ซีซัน 6

ซีรีส์ไซไฟขำขันร้ายเสียดสีสังคมกลับมาอีกที เพื่อเชิญชวนนึกถึงการเกิดความหลงใหลของมนุษย์ต่อบริการสตรีมไม่ง ไปจนกระทั่งเรื่องเล่าโบราณถึงความไร้มนุษยธรรมที่กลับมาปรากฏกายในยุคสมัยใหม่ แน่ๆว่าเสียดสีทั้งทีถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเน็ตฟลิกซ์ก็ไม่ใช่ข้อละเว้น‘Black Mirror’ สร้างความสะดุดตาขึ้นมาในฐานะซีรีส์ธีมไซไฟสยองขวัญที่เจือความตลกขบขันร้ายรวมทั้งการเสียดสีสังคมยุคใหม่ไปพร้อม หลายทีเป็นการเล่าเอามัน

มิตรภาพ ความปรารถนา แรงเลื่อมใส แล้วก็ปาฏิหาริย์กึ่งกลางทะเลเรื่องราวเชื้อเชิญอบอุ่นหัวใจที่พรีเซ็นท์ในลักษณะของกิจกรรมตกปลา เมื่อคนหนึ่งอยากเงินรางวัลจากการประลองเพื่อกู้วิกฤติของบ้านลูกกำพร้า ก็เลยเปลี่ยนเป็นจุดเริ่มแรกให้มีการรวมตัวกันของคนไม่เอาถ่านในสายตาผู้อื่น สไปเดอร์-แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม ทั้งยังกัปตันเรือที่ไม่เคยได้เรื่องสารภาพแม้ว่าจะมีความสามารถฝีมือยอดเยี่ยมขนาดไหน

ผู้ที่หามความมุ่งหวังเล็กๆของบ้านลูกกำพร้าซึ่งเกินความสามารถตนเองเอาไว้ รวมทั้งเด็กๆผู้ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนทั้งยังหัวข้อการออกเรือและก็การตกปลา แปลงเป็นการจับกลุ่มของคนต่างอายุแล้วก็จะต้องร่วมแรงร่วมใจก้าวผ่านทุกปัญหาบนเรือลำเดียวกัน รวมทั้งทุกนาทีที่มืดมนแล้วก็แจ่มใสก็ทำให้ชีวิตของทุกคนไม่อย่างเดิมอีกต่อไป บ่อยครั้งทิ้งก้อนปริศนาเอาไว้ภายในหัวแบบติดอยู่ยาวนานหลายวันสลัดไม่หลุด มันมีความเป็นอีกทั้งปรัชญาเข้มๆอ่อนโยนบาดลึก รวมทั้งความจัดจ้ายียวนแบบงานคอมิกที่น่าดึงดูด

การกลับมาในซีซันที่ 6 บอกในตนเองดีอยู่แล้วว่ามันบรรลุผลสำเร็จแล้วก็เป็นที่นิยมแค่ไหน และก็ภายหลังพักตอนแสนช้านานตั้งแต่แมื่อซีซัน 5 ตั้งแต่ปี 2019 ก็จำต้องใช้เวลาบ่มเพาะเนื้อหาใหม่ๆกว่า 4 ปี ถึงได้มีซีซันใหม่ออกมา ทั้งนี้ก็เพราะผู้ผลิตสรรค์ซีรีส์อย่าง ชาร์ลี บรูกเกอร์ (Charlie Brooker) เองก็เห็นว่าตอนการแพร่ระบาดของวัววิด-19 ทั้งโลกมีมวลอารมณ์ที่เคร่งเคลียดและก็ตระหนกตกใจเหลือเกินแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีซีรีส์ของเขามาเพิ่มความรู้สึกไม่ดีไปอีก

รอบนี้บรูกเกอร์เรียงลำดับจากเรื่องหนักๆไปขึ้นเข้มสุดในช่วงเวลาที่ 3 และก็เบาๆผ่อนเครื่องคูลดาวน์ลงมากระทั่งจบในระหว่างที่ 5 ที่มองขำขันสุด โดยทีแรกๆ ‘Joan Is Awful’ เกิดเรื่องแปลกเชิญถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมเน็ตฟลิกซ์ ที่ถ้าเกิดชีวิตของพวกเราเปลี่ยนเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่คนไหนกันก็เข้ามามองได้แถมถูกตีสีใส่ไข่ใหม่จนกระทั่งแซ่บเสียด้วย ความฝันของคุณที่ต้องการเป็น Queen ในงานพรอมก็เลยได้เริ่มขึ้น

รีวิว Senior Year: ปีในที่สุด

เรื่องที่เอาไว้มองเวลาว่างหรือมองแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย จากเรื่องราวของ สเตฟานี่ คอนเวย์ สาวสุดฮอตในตอนมัธยมศึกษาตอนปลายในปี 2002 แม้กระนั้นเกิดเหตุบกพร่องจากผู้กระทำลั่นแกล้งของสาวอีกคน ทำให้คุณนั้นอยู่ในอาการรุนแรงนานถึง 20 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งที่คุณลืมตาตื่นมา ก็พบว่าตนเองนั้นอายุถึง 37 ปีเข้าไปแล้ว แถมทุกๆอย่างยังพังทลายหมดรูป คุณก็เลยตกลงใจกลับเข้าไปศึกษาต่อให้จบเวลาที่เหลืออีกเพียงแต่ 1 เดือนเพียงแค่นั้น

เรียกว่าวิจารณ์ผู้ครอบครองบริการอย่างเน็ตฟลิกซ์เองแบบไม่เกรงใจกันเลย ตัวหนังมีความเบาสมองเล่าเคราะห์กรรมจลาจลของผู้แสดงที่ใกล้กับจนตรอกแล้วจะต้องพากเพียรดิ้นรนสุดชีวิตกระทั่งบางทีก็มองห่ามบ้าๆบอๆได้น่าติดตาม ส่วนที่น่าดึงดูดเป็นเวลานี้แม้ว่าจะมองไม่หนัก แม้กระนั้นก็เสนอคำถามเกี่ยวกับสิทธิ์ทางด้านกฎหมายเรื่องตัวตนของพวกเราได้อย่างเฉียบคมทีเดียว

แม้กระนั้นผลประโยชน์ก็คือบรูกเกอร์ไประบายความคันต่อปัญหาภายในสังคมโลกกระทั่งกำเนิดเป็นหนังเน็ตฟลิกซ์สุดกวนอย่าง ‘Death to 2020’ และก็ ‘Death to 2021’ ที่เอาการเครียดมาทำฮา แล้วก็อาจเก็บมวลขี้ตะกอนความนึกคิดขบขันร้ายแบบหนักหัวที่กลั่นเข้มข้นมานับเป็นเวลาหลายปีเพื่อเอามาใช้กับปริมาณ 5 ตอนใน ‘Black Mirror ซีซัน 6’ ซึ่งทำให้มันเป็นอีกซีซันที่มันมีความตลกขบขันที่ยิ้มไม่ออกแล้วก็เชิญชวนคิดเรื่องยากๆแบบที่พวกเราคร่ำครวญหามานานพอดิบพอดี

ในภาคก่อน ไมลส์ได้เจอหน้ากับ ลีฟ หรือ ด็อกอ็อก (Kathryn Hahn)​ ลูกสมุนหนวดน้ำหมึกตัวร้ายของคิงพิน แถมยังได้พบว่า แอรอน (Mahershala Ali จากหนังเรื่อง ‘Moonlight’) อาของตนหมายถึงพรอวเลอร์ สถานที่ทำงานให้กับคิงพิน รวมทั้งเขาตามมาแก่งแย่งชิปที่จะสกัดกั้นโปรเจกต์อุปกรณ์เร่งอนูสุดอันตรายโน่น มันแปลงเป็นจุดหักมุมที่สร้างความสับสนในใจของไมลส์มากมายก่ายกอง เป็นรอยแผลสำคัญที่เขาจำต้องก้าวผ่านมันไป มันจะมีผลให้เขารู้เรื่องได้ว่า แม้ว่าจะเป็นซูเปอร์วีรบุรุษ

ก็พูดได้ว่าเป็นการสืบต่อการบรรลุผลจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคก่อน Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่สุดยอดกระทั่งครอบครองรางวัลออสการ์ แม้กระนั้นเรื่องราวการเดินทางต่างๆก็ยังไม่จบ ภาคใหม่นี้ ไมล์สจำเป็นจะต้องเริ่มเดินทางทะลุไปในมัลติเวิร์สอื่นๆพร้อมความมันสนุกสนานเข้มข้นเยอะขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมอีกหลายเท่า ก็ไม่สามารถช่วยทุกคนได้ พวกเขาบางทีอาจจำต้องเสียใครซักคนที่สำคัญในชีวิตไปบ้าง

รีวิว LOU: สืบหาในความมืดมน

ที่เปิดตัวมาปีที่ผ่านมาแม้กระนั้นก็ยังมีรายละเอียดเข้มข้นน่าติดตาม จากเรื่องราวของ ลู ป้าคนที่อยู่อย่างสันโดษในสถานที่ไกลห่างจากเมือง พร้อมทั้งสุนัขอีกหนึ่งตัวเป็นแจ็กส์ และก็คุณก็ได้ปลดปล่อยบ้านเช่าให้กับ ฮันทุ่งนาห์ แม่เลี้ยงลำพังที่ขอเข้าอาศัยอยู่ด้วยกับ วี ลูกของคุณ แม้กระนั้นอยู่มาวันหนึ่งที่เกิดลมพายุลมฝนร้ายแรง วี บุตรสาวของคุณได้ถูกลักพาตัวไป แถมรถยนต์ทุกคันก็ถูกปลดปล่อยยางกระทั่งไปบอกคนไหนกันมิได้ โดยฮันทุ่งนาห์นั้นรู้อยู่แล้วว่าคนไหนเป็นคนลักพาตัวไป

รวมทั้งสิ่งจำเป็นที่ไม่อยากที่จะให้พลาดสำหรับแฟนคลับเพราะว่าหนังหัวข้อนี้จะมีสิ่งที่แฟนคลับสไปเดอร์-แมน ไม่ว่าจากภาคคนแสดงจริง หรือ แอนิเมชั่นไม่เคยได้มองเห็นมาก่อน แต่ว่าจะได้มองเห็นจากแอนิเมชั่น Across the Spider-Verse หัวข้อนี้แค่นั้น มันก็คือ สไปเดอร์-กลุ่ม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะขนกันมาบนหน้าจอแบบหลายร้อยตัว ซึ่งก็คืออดีตกาลทหารที่เคยออกรบที่มีลักษณะอาการทางใจผัวเก่าของคุณเอง สไปเดอร์-แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม ลูที่เชี่ยวชาญทางในป่าก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกันก็เลยได้ช่วยออกมาตามหาสืบเสาะหาตามไป

ยิ่งไปกว่านั้นช่วงแรกนี้ยังประพฤติตนราวกับสารบาญที่แอบจั่วหัวในตอนที่เหลือในซีซันนี้ไว้เป็นอีสเตอร์เอ้กด้วย ซึ่งหนังเรื่องหนึ่งที่โผล่มาบนจอทีวีในฉากของช่วงแรกก็คือ ‘Loch Henry’ ที่เป็นตอนที่ 2 ของซีซัน เกี่ยวกับวัฒนธรรมของสารคดีอาชญากรรม (True Crime) ที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบ เกี่ยวกับนิสิตคู่สมรสที่กลับมาถิ่นฐานบ้านช่องในบ้านนอกของข้างชายเพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับคดีฆาตกรโรคจิตที่เสียชีวิตตนเอง หากแม้ในเชิงของหนังเขย่าขวัญจะมิได้ใหม่อะไร

เหตุจริงของสองนักตรวจสอบแล้วก็การช่วงชิงดินแดนกรีนแลนด์อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ผลิตมาจากเรื่องราวจริงกับเรื่องราวของสองนักตรวจชาวเดนมาร์ก ที่กัปตันกลุ่มตรวจสอบและก็ผู้คุมเครื่องมือผู้บังคับหมาลากเลื่อน จำต้องเริ่มเดินทางไปยังกรีนแลนด์หรือจุดขั้วโลกเหนือที่มีลักษณะอากาศเยือกแข็งสุดไม่ดี รวมทั้งเต็มไปด้วยภาวะทำเลที่ตั้งที่อันตราย แต่ว่าของเด็ดของดีนั้นอยู่ที่ขมวดจบมากยิ่งกว่า ที่บอกได้เพียงว่ามันเสียดลึกน้ำตาซึมได้แบบเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือบุตรสาวของฮันที่นาห์ให้ได้

โดยวัตถุประสงค์ของพวกเขาเป็นการออกตามหาเพื่อนพ้องร่วมเดินทางที่หายสูญระหว่างออกตรวจ ทั้งยังอยากได้เผยเรื่องราวข้อเท็จจริงของดินแดนที่ยังไม่มีผู้ใดตรวจ เพราะว่าประเทศอเมริกากล่าวถึงว่าเป็นดินแดนว่างเปล่าที่เป็นของตน แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วดินแดนนี้เป็นเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกรีนแลนด์ wowgame567 ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเริ่มเดินทางเพื่อทำภารกิจนี้ให้เสร็จ